Core Retail Sales เหมือนกับ Retail Sales แต่เป็นยอดขายปลีกที่ไม่รวมยอดขายรถยนต์ (ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของยอดขายปลีกทั้งหมด) ดังนั้น Core Retail Sales จึงมีแนวโน้มทำให้ตลาดผันผวนได้มากกว่า เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดการใช้จ่ายได้ดีกว่านั่นเอง
ตลาดหรือเทรดเดอร์สามารถใช้ข้อมูล Core Retail Sales เพื่อตรวจสอบความต้องการของผู้บริโภค ในฐานะตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจสำคัญ เนื่องจากยอดขายปลีกเป็นข้อมูลของกิจกรรมที่ขับเคลื่อนตลาดในแต่ละเดือน (ไม่รวมยอดขายรถยนต์) ซึ่งจะเป็นการระบุถึงทิศทางของเศรษฐกิจของประเทศ มันทำหน้าที่เป็นตัวชีวัดถึงความร้อนแรงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงเป็นการตรวจสอบแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออีกด้วย
สำหรับ Core Retail Sales สหรัฐฯ จะถูกรายงานในวันเดียวกับรายงานข้อมูล Retail Sales คือในช่วงกลางเดือนถัดไป หรือประมาณ 16 วันหลังจากสิ้นเดือน
Be First to Comment